PPFD-485

Technical parameter

• DC power supply: 7-36 VDC
• power consumption: 0.6W
• Work temperature: -30°C ~+75°C 
• Response spectrum: 400nm~700nm
• Measurement range: 0~2500 µ /㎡ · s
• Resolution: 1 µ /㎡ · s
• Precision: ±2% (1000µ /㎡ · s, 60%RH,25°) 
• Response time: 10µs
• Linearity: ≤±1%
• Long-term stability: ≤ 2%/y
• Output: RS485 (Modbus RTU protocol)

ทำไมต้องรู้ค่า PAR, PPF และ PPFD?

การรู้ค่าเหล่านี้จะช่วยให้คุณเลือกหลอดไฟปลูกพืชที่มีค่า PAR, PPF และ PPFD ที่เหมาะสมกับชนิดของพืชที่คุณปลูกให้ดีขึ้น สำหรับผู้ที่สนใจปลูกพืช ไม่ว่าจะเป็นการปลูกผักสวนครัว หรือการปลูกพืชในโรงเรือน คำศัพท์ทางเทคนิคอย่าง PAR, PPF, และ PPFD อาจดูยุ่งยาก แต่ความเข้าใจในค่าเหล่านี้จะช่วยให้คุณเลือกใช้แสงสว่างสำหรับพืชได้อย่างเหมาะสม คุณสามารถปรับเปลี่ยนค่าเหล่านี้เพื่อควบคุมการเจริญเติบโตของพืช เช่น การเร่งการออกดอก หรือการเพิ่มขนาดของผลผลิต และส่งผลให้พืชเจริญเติบโตได้ดีขึ้น

PAR (Photosynthetically Active Radiation)

• คือ รังสีที่ใช้งานในการสังเคราะห์แสง
• หมายถึงช่วงของแสงที่มองเห็นได้ (ช่วงความยาวคลื่น 400-700 นาโนเมตร) ซึ่งพืชใช้ในการสังเคราะห์แสงเพื่อสร้างอาหาร
• แสงช่วงนี้มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโต การออกดอก และการผลิดอกผลของพืช 

PPF (Photosynthetic Photon Flux) 

• คือ ฟลักซ์โฟตอนสำหรับการสังเคราะห์แสง
• หมายถึงจำนวนโฟตอนทั้งหมด (อนุภาคของแสง) ในช่วง PAR ที่แหล่งกำเนิดแสงปล่อยออกมาในหนึ่งวินาที
• คิดง่ายๆ ก็คือ ปริมาณแสงทั้งหมดที่แหล่งกำเนิดแสงปล่อยออกมาในช่วงที่พืชใช้ประโยชน์ได้

PPFD (Photosynthetic Photon Flux Density) 

• คือ ความหนาแน่นของฟลักซ์โฟตอนสำหรับการสังเคราะห์แสง
• หมายถึงจำนวนโฟตอนในช่วง PAR ที่ตกกระทบลงบนพื้นที่หนึ่งหน่วยในหนึ่งวินาที
• ค่านี้จะบอกให้เราทราบว่าแสงสว่างที่พืชได้รับนั้นมีปริมาณมากน้อยเพียงใด

สรุป 

• PAR คือช่วงของแสงที่พืชใช้ในการสังเคราะห์แสง
• PPF คือปริมาณแสงทั้งหมดที่แหล่งกำเนิดแสงปล่อยออกมาในช่วง PAR
• PPFD คือปริมาณแสงที่ตกกระทบลงบนพื้นที่หนึ่งหน่วย

Technical parameter

ก่อนที่จะเชื่อมต่อสายไฟกรุณาทำความเข้าใจการใช้งานโดยละเอียด ถ้าหากมีการเชื่อมต่อ สายไฟผิดพลาดอาจส่งผลใหญ่เกิดความเสียหายกับเซนเซอร์ได้

Communication protocol

Register Address